กรุงเทพฯ – ประเทศไทย – 11 พฤษภาคม 2558 - บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือไอวีแอล ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นกลางชั้นนำระดับโลก ประกาศกำไรหลักสุทธิงวดแรกไตรมาสที่ 1 ปี 2558 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมีกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) เพิ่มขึ้นแต่ยังถูกจำกัดจากประเด็นด้านอุปทานของ PTA ในสหรัฐอเมริกา แผนการปรับปรุงโรงงานผลิต PET ในประเทศเม็กซิโกซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการและการหยุดดำเนินงานตามแผนเป็นเวลา 28 วันของโรงงานผลิตโพลีเอสเตอร์แห่งใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย

บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูงเป็นประวัติการ อยู่ที่ 26.7 พันล้านบาทในช่วง 12 เดือนย้อนหลังสิ้นสุดไตรมาสที่ 1 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 100 เนื่องจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ราคาวัตถุดิบที่ลดลงและการจัดการเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการที่ดีขึ้น ราคาน้ำมันดิบและปิโตรเคมีที่ปรับตัวลดลงในไตรมาสแรก ส่งผลให้เกิดการขาดทุนจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือ (ซึ่งเป็นรายการที่ไม่กระทบเงินสด) จำนวน 1.4 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะกลับมาเป็นบวกในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากราคา PTA และ MEG ที่มีการปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน

ส่วนผลการดำเนินงานของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA)ในช่วง 12 เดือนย้อนหลังจนถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 1 มีกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) เพิ่มขึ้นร้อยละ 44

“ในปี 2558 ไอวีแอลจะมีกำลังการผลิตเติบโตเพิ่มขึ้น 1 ล้านตันรวมเป็น 8.5 ล้านตันจากการเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการรวมทั้งการเข้าซื้อกิจการที่ได้ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้” นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ กล่าว “การเพิ่มสัดส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ ราคาของ MEG ที่ปรับตัวขึ้นในสหรัฐอเมริกา การบูรณาการการดำเนินงานเข้ากับโรงงานผลิต PTA ในประเทศแคนาดา การเติบโตของปริมาณการผลิตรวมในประเทศไทยจากการเข้าซื้อกิจการบริษัทบางกอก โพลีเอสเตอร์ จะส่งผลให้มีกำไรเพิ่มขึ้นในปี 2558 เมื่อเทียบกับปี 2557”

บริษัทฯ ได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการ 4 แห่งในไตรมาสแรกและดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว 3 แห่ง บริษัท Polyplex ในประเทศตุรกี นับเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดที่มีการเติบโตสูงและช่วยให้เราสามารถเข้าสู่ภูมิภาคยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ Performance Fibers เป็นธุรกิจเส้นใยสำหรับยางรถยนต์ที่มีความเฉพาะ ส่งผลให้เกิดการเกื้อหนุนกับธุรกิจผลิตโพลีเมอร์ของบริษัทฯในประเทศจีนและทำให้บริษัทฯ ขึ้นเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์พร้อมแบรนด์ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก การเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการบริษัท บางกอก โพลีเอสเตอร์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 ช่วยให้ส่งเสริมกลยุทธ์การบูรณาการในแนวดิ่ง ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบประเภท PTA ที่บริษัทฯ ผลิตขึ้นในท้องที่ เกิดการเกื้อหนุนทางธุรกิจ