• ขยายการดำเนินงานของไอวีแอลในตลาดเส้นใยสำหรับยานยนต์ที่มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
  • เสริมความแข็งแกร่งของไอวีแอลในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มด้วยแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ
  • ปัจจัยบวกจากการเกื้อหนุนจากตำแหน่งทางการตลาดของ Durafiber ที่เป็นที่ยอมรับในเม็กซิโก และเสริมสร้างโอกาสในการเติบและการขยายธุรกิจในอเมริกาในอนาคต
  • ส่งผลทางบวกต่อกำไรในทันทีและเกิดการประหยัดต้นทุนจากการเกื้อหนุนทางธุรกิจที่เกิดขึ้น

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย – 3 ตุลาคม 2560 – บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทฯ ได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการบริษัท DuraFiber Technologies México Operations, S. A. DE C. V. (Durafiber) ผู้ผลิตด้านสิ่งทอเทคนิคที่มีความแข็งแกร่งสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์สำหรับเสริมแรงยางรถยนต์และการใช้งานพิเศษอื่นๆ ชั้นนำในประเทศเม็กซิโก

ไอวีแอลประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Durafiber เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2560 ซึ่งสอดคล้องอย่างมากกับกลยุทธ์ของบริษัทฯในการสร้างการเติบโตเพิ่มเติมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ในกลุ่มยานยนต์ บริษัท Durafiber เป็นผู้ผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์เพียงรายเดียวในประเทศเม็กซิโกและมีฐานลูกค้าที่กว้างขวาง ตลอดจนผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการยอมรับจากลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทยางรถยนต์ระดับโลก การเข้าซื้อกิจการบริษัท Durafiber ช่วยขยายความกว้างของกลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นใยสำหรับยางในรถยนต์และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับไอวีแอลในการใช้ประโยชน์จากขนาดและสินทรัพย์ของบริษัทฯ ที่มีอยู่ทั่วโลก เพื่อสร้างการเกื้อหนุนทางธุรกิจและเข้าถึงโอกาสในการเติบโตที่มีอยู่อย่างมากมาย โดยจากการประมาณการ ตลาดเส้นใยสำหรับยานยนต์มีเติบโตในอัตราเฉลี่ยสะสมต่อปีประมาณ 5-6% ในช่วงปี 2560- 2564 และมีมูลค่าตลาดโดยรวมกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าว “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ Durafiber ได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัวไอวีแอล ซึ่งเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นที่ได้เสริมความแข็งแกร่งของเราในตลาดที่มีการเติบโตรวดเร็วอย่างเม็กซิโกและอเมริกา รวมถึงส่งเสริมความเป็นผู้นำของไอวีแอลในตลาดยานยนต์เพิ่มเติม ซึ่งเป็นตลาดที่เรามองเห็นโอกาสอย่างมหาศาล การเข้าซื้อกิจการ Durafiber ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการตอบสนองความต้องการการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในตลาดเส้นใยยานยนต์ และขยายความสามารถในการให้บริการเพื่อนำเสนอนบริการที่ดีที่สุดในตลาดให้แก่ลูกค้า การนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรม ประกอบกับการบูรณาการของความสามารถด้านวิจัยและพัฒนา ตลอดจนโรงงานที่มีอยู่ทั่วโลก ถือเป็นบริการที่เป็นเอกลักษณ์สำรหับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยความแตกต่างในด้านคุณค่าที่ส่งมอบให้แก่ลูกค้านี้เองจะเอื้อประโยชน์อย่างมากต่อลูกค้าและขับเคลื่อนไอวีแอลไปสู่การเติบโตตามยุทธศาสตร์ในระยะต่อไปในฐานะพันธมิตรชั้นนำด้านเส้นใยสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์”

“เรายังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงและสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA ซึ่งส่งผลอย่างชัดเจนและเป็นการวางตำแหน่งที่ดีสำหรับไอวีแอลในการจับโอกาสทางธุรกิจและการเกื้อหนุนทางธุรกิจที่มีอยู่ย่างมหาศาล ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไอวีแอลเข้าซื้อโรงงานทั้งหมด 39 แห่ง ในจำนวนนั้นเป็นโรงงานที่อยู่ในธุรกิจ HVA 29 แห่ง กลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA มีการเติบโต คิดเป็นร้อยละ 50 ของกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) เรามีพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในอนาคต ทั้งในเรื่องกลุ่มตลาดที่มีการกระจายตัวอยู่ทั่วโลกและแหล่งรายได้ที่หลากหลาย อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนา ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทั้งรายได้และผลกำไร รวมทั้งส่งมอบผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นของเรา” นายโลเฮียกล่าวสรุป