ประเทศไทย – 25 มีนาคม 2556 – โครงการ “น้ำใส ทรายสะอาด ที่หาดแม่รำพึง” กิจกรรมรักษาความสะอาดบนชายหาดแม่รำพึง จังหวัดระยองของบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)  ซึ่งได้จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2556 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง น้ำหนักรวมของขยะที่ได้เก็บในวันนั้นรวมทั้งสิ้นเป็นน้ำหนัก 4,336.50 กิโลกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นเกินกว่า 200% หรือ 2,436 ตัน จากยอดการเก็บขยะครั้งที่ 2

กิจกรรมเก็บขยะริมหาดแม่รำพึงเป็นกิจกรรมที่กลุ่มผู้บริหารอินโดรามา เวนเจอร์ส ให้ความสนใจเป็นอย่างมากและผลักดันให้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องในระยะยาว เนื่องจากชายหาดแม่รำพึงมีความสำคัญเชิงเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ในการช่วยรักษา   ภูมิทัศน์ของสถานที่ให้สะอาดสวยงามนี้ไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่จะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน  

ในการเก็บขยะครั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวบนชายหาดแม่รำพึงให้การสนับสนุนกิจกรรมอย่างเต็มที่พร้อมทั้งลงมือช่วยเก็บขยะบนชายหาดอย่างตั้งใจเหล่านักท่องเที่ยวให้ความเห็นว่ากิจกรรมรักษาความสะอาดบนชายหาดเป็นกิจกรรมที่น่าชื่นชม เพราะไม่เพียงแต่เป็นการให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมแต่เป็นวิธีการที่จะทำให้นักท่องเที่ยวอยากกลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้ง เพราะตอนนี้พวกเขารู้สึกผิดหวังที่ หาดแม่รำพึง ไม่เป็น “สวรรค์” ที่งดงามเหมือนอย่างที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ก่อนจะเดินทางมาเพราะขยะที่มีอยู่เกลื่อนหาด

คุณริชาร์ด โจนส์ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร เผยถึงแนวความคิดของการดูแลชายหาดนี้ว่า การดูแลนี้ไม่ใช่การดูแลเป็นครั้งคราวแบบที่อยากทำเมื่อไรก็ทำ แต่เป็นการ “อุปถัมภ์” คือ รับมาดูแลตลอดไป ซึ่งทำให้อินโดรามา เวนเจอร์ส คอยหมั่นดูแลรักษาสภาพชายหาด ตรวจตราอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งคอยพัฒนาแนวคิดของการดูแล เพื่อปรับปรุงและยกระดับการดูแลความสะอาดของชายหาดในบริเวณที่รับอุปถัมภ์ให้ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ แนวความคิดของโครงการนี้ คือ การสนับสนุนให้คนในชุมชนได้หันกลับมาสนใจและใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมภายในชุมชนตัวเอง และเพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของเศรษฐกิจยั่งยืนที่สามารถเริ่มต้นได้ภายในชุมชน

คุณริชาร์ด โจนส์ ยังได้ย้ำถึงความสำคัญของ “การปลูกฝังความคิด” ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ในปัจจุบันนี้ไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่เท่านั้นที่จะเป็นฝ่ายปลูกฝังให้กับเด็ก เพราะว่าความคิดของผู้ใหญ่หลายๆคนที่มีอยู่ก็เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นภาระหน้าที่ใน


การปฏิวัติแนวความคิดเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมจึงได้ตกมาเป็นหน้าที่ของ “คนรุ่นใหม่” ที่จะต้องเป็นแบบอย่างและโน้มน้าวคนรอบตัวให้หยุดซ้ำเติมสิ่งแวดล้อมของเรา และ หันกลับมาเริ่มต้นใหม่ในการใส่ใจและดูแลอย่างแท้จริง