กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 12 ธันวาคม 2559 – บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาระยะยาวกับบริษัท Targa Resources Corp. (NYSE: TRGP) ผู้จัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (NGLs) ชั้นนำใน Mont Belvieu รัฐเท็กซัส เพื่อซื้อก๊าซอีเทนและก๊าซโพรเพน ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในโรงงานก๊าซแครกเกอร์ของบริษัทฯ ในเมือง Lake Charles รัฐลุยเซียนา ภายใต้สัญญาที่ได้ลงนาม บริษัท Targa Resources Corp. นอกจากจะจัดหาก๊าซอีเทนและก๊าซโพรเพนให้ไอวีแอลแล้ว แต่ยังให้บริการจัดเก็บก๊าซดังกล่าวในพื้นที่ในเมือง Lake Charles อีกด้วย

ไอวีแอลประกาศเข้าซื้อกิจการเอทิลีนแครกเกอร์ในเมือง Lake Charles เมื่อเดือนกันยายน 2559 ปัจจุบันโรงงานดังกล่าวอยู่ระหว่างการปรับปรุงและคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2560 โรงงานแห่งนี้สามารถรองรับวัตถุดิบได้ทั้งอีเทนและโพรเพน เพื่อผลิตเอทิลีน โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 420,000 ตันต่อปีและผลิตโพรพิลีน จำนวน 20,000 ตันต่อปี ปัจจุบันอินโดรามา เวนเจอร์ส เป็นผู้ผลิตเอทิลีนออกไซต์บริสุทธิ์ (PEO) และโมโนเอทิลีนไกลคอล (MEG) รายหลักในสหรัฐอเมริกา

“สัญญาต่อเนื่องระยะยาวนี้ เอื้อประโยชน์ต่อไอวีแอล ทำให้มีก๊าซอีเทนเพียงพอต่อความต้องการใช้เพื่อผลิตเอทิลีนทั้งหมด ความยืดหยุ่นของโรงงานแห่งนี้ที่สามารถรองรับได้ทั้งอีเทนและโพรเพน ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากการก๊าซธรรมชาติจากชั้นหิน รวมทั้งทำให้เราก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิต PET ที่มีการบูรณาการในแนวดิ่งมากที่สุดในอเมริกาเหนือ ควบคู่กับการบูรณาการการผลิตเพื่อให้สามารถบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การบูรณาการกับโอเลฟินส์ จะทำให้ไอวีแอลมีความได้เปรียบด้านต้นทุนในระยะยาวในการดำเนินธุรกิจในอเมริกาเหนืออย่างมีนัยสำคัญ” นายอาลก โลเฮียกล่าว

นอกจากนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส ยังได้ลงนามในข้อตกลงกับบริษัท Boardwalk Louisiana Midstream, LLC (Boardwalk) บริษัทย่อยของบริษัท Boardwalk Pipeline Partners, LP โดยบริษัท Boardwalk จะให้บริการด้านการขนส่งทางท่อและการจัดเก็บเอทิลีนที่ผลิตจากโรงงานก๊าซแครกเกอร์ของอินโดรามา เวนเจอร์ส ในเมือง Lake Charles นอกจากนี้บริษัท Boardwalk ยังให้บริการเชื่อมต่อกับท่อขนส่ง Evangeline ทำให้สามารถขนส่งเอทิลีนไปยังลุยเซียนาและเท็กซัส ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานออกไซต์และไกลคอลของอินโดรามา เวนเจอร์ส เพื่อใช้เอทิลีนในการผลิตโมโนเอทิลีนไกลคอล (MEG) วัตถุดิบหลักที่สำคัญในการผลิต PET รวมทั้งเอทิลีนออกไซต์บริสุทธิ์ (PEO) ซึ่งเป็นเคมีภํณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มที่ใช้ในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค