ข่าวแจ้งสื่อมวลชน
อินโดรามา เวนเจอร์ส ประกาศเข้าซื้อกิจการ บริษัทผู้นำการผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์ในยุโรป
ขยายการเติบโตและเสริมความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) กลุ่มยางในรถยนต์
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 17 เมษายน 2560 – บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า ได้บรรลุข้อตกลงสัญญาการเข้าซื้อกิจการบริษัท Glanzstoff Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์และเส้นด้ายเสริมแรงสำหรับยางในรถยนต์สมรรถนะสูงชั้นนำในยุโรป การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2560 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติภายใต้ข้อบังคับทางกฎหมาย
บริษัท Glanzstoff นำเสนอโซลูชั่นที่หลากหลายในด้านสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์และเส้นด้ายเสริมแรงสำหรับยางในรถยนต์สมรรถนะสูงประเภทเรยอน เส้นใยอะระมิด ไนลอน 6.6 เส้นใยโพลีเอสเตอร์ รวมถึงเส้นด้ายใยยาวประเภทไฮบริด เพื่อรองรับการใช้งานในกลุ่มยานยนต์ที่ต้องการสมรรถนะสูงและมีการเติบโตสูง ทั้งนี้ Glanzstoff เป็นผู้ผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในยุโรปและเป็นผู้นำการผลิตเส้นด้ายเสริมแรงสำหรับยางในรถยนต์ บริษัทมีการบูรณาการในแนวดิ่งไปยังเทคโนโลยีเรยอนชนิดความเหนียวสูง โดยมีโรงงานผลิตในประเทศลักเซมเบิร์ก อิตาลีและสาธารณรัฐเช็ก
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ว่า “การเข้าซื้อบริษัท Glanzstoff ถือเป็นโอกาสที่พิเศษสำหรับไอวีแอล ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำในธุรกิจเส้นใยสำหรับยางในรถยนต์ รวมถึงเติมเต็มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ตลอดจนส่งเสริมโอกาสความร่วมมือกับบริษัทยางรถยนต์ระดับโลก ทั้งในกลุ่มยานพาหนะไร้คนขับและรถพลังงานไฟฟ้า ไอวีแอลเป็นผู้นำเสนอโซลูชั่นด้านเส้นใยชนิดพิเศษชั้นนำระดับโลก มีความแข็งแกร่งในกลุ่มเส้นด้ายสำหรับผนังด้านบนของรถยนต์ เส้นใยอะคูสติกเพื่อดูดซับเสียงและสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์ การเข้าซื้อบริษัท Glanzstoff มีความเหมาะสมกับยุทธศาสตร์เพื่อสร้างการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้”
ไอวีแอลเริ่มเข้าสู่ธุรกิจยางในรถยนต์ที่มีการเติบโตสูงจากการเข้าซื้อกิจการบริษัท PHP Fibers ในปี 2557 ต่อมาได้เข้าซื้อกิจการบริษัท Performance Fibers ในปี 2558 ส่งผลให้ไอวีแอลมีการเติบโตขนาดธุรกิจระดับโลก บริษัทฯ มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องและประกาศโครงการการขยายการผลิตในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางในรถยนต์ของบริษัท Performance Fibers ในเมืองไคปิง ประเทศจีนเมื่อเดือนมกราคม ปี 2560 ตามการประมาณการณ์ รายได้รวมของบริษัท PHP Fibers บริษัท Performance Fibers และบริษัท Glanzstoff ในปี 2559 อยู่ที่ 602 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในปี 2559 ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม HVA ทั้งหมดของไอวีแอล มีรายได้จากการขายรวมสูงกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
“เรายังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องตามเส้นทางการเปลี่ยนแปลงเพื่อเสริมสร้างตำแหน่งผู้นำที่แข็งแกร่งและสร้างโอกาสในการเติบโตของกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม ธุรกิจของ Glanzstoff จะช่วยให้เราขยายธุรกิจเข้าสู่เทคโนโลยีเรยอน นอกเหนือจากโพลีเอสเตอร์และไนลอน 6.6 เราจะยังคงมุ่งเน้นการนำเสนอคุณค่าที่ดีที่สุดในแก่ลูกค้า ในขณะเดียวกันขับเคลื่อนนวัตกรรมระดับโลก เพื่อสร้างขีดความสามารถของบริษัทฯ ภายในห่วงโซ่คุณค่าที่เราดำเนินธุรกิจ เรามุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทระดับโลกที่มีการเติบโตสูงและยังคงแสวงหาโอกาสอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้และเพิ่มมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน” นายโลเฮีย กล่าวสรุป
Presentation: คลิกที่นี่
- เสริมความแข็งแกร่งให้กับไอวีแอลในฐานะผู้นำในตลาดกลุ่มยางในรถยนต์
- เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ ขยายการเติบโตทั้งยอดขายและกำไร
- ขยายการดำเนินงานของไอวีแอลในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ เส้นด้ายเสริมความแข็งแกร่งให้กับยางในรถยนต์ (Single-end-cords) และสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์สมรรถนะสูง
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 17 เมษายน 2560 – บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า ได้บรรลุข้อตกลงสัญญาการเข้าซื้อกิจการบริษัท Glanzstoff Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์และเส้นด้ายเสริมแรงสำหรับยางในรถยนต์สมรรถนะสูงชั้นนำในยุโรป การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2560 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติภายใต้ข้อบังคับทางกฎหมาย
บริษัท Glanzstoff นำเสนอโซลูชั่นที่หลากหลายในด้านสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์และเส้นด้ายเสริมแรงสำหรับยางในรถยนต์สมรรถนะสูงประเภทเรยอน เส้นใยอะระมิด ไนลอน 6.6 เส้นใยโพลีเอสเตอร์ รวมถึงเส้นด้ายใยยาวประเภทไฮบริด เพื่อรองรับการใช้งานในกลุ่มยานยนต์ที่ต้องการสมรรถนะสูงและมีการเติบโตสูง ทั้งนี้ Glanzstoff เป็นผู้ผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในยุโรปและเป็นผู้นำการผลิตเส้นด้ายเสริมแรงสำหรับยางในรถยนต์ บริษัทมีการบูรณาการในแนวดิ่งไปยังเทคโนโลยีเรยอนชนิดความเหนียวสูง โดยมีโรงงานผลิตในประเทศลักเซมเบิร์ก อิตาลีและสาธารณรัฐเช็ก
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ว่า “การเข้าซื้อบริษัท Glanzstoff ถือเป็นโอกาสที่พิเศษสำหรับไอวีแอล ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำในธุรกิจเส้นใยสำหรับยางในรถยนต์ รวมถึงเติมเต็มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ตลอดจนส่งเสริมโอกาสความร่วมมือกับบริษัทยางรถยนต์ระดับโลก ทั้งในกลุ่มยานพาหนะไร้คนขับและรถพลังงานไฟฟ้า ไอวีแอลเป็นผู้นำเสนอโซลูชั่นด้านเส้นใยชนิดพิเศษชั้นนำระดับโลก มีความแข็งแกร่งในกลุ่มเส้นด้ายสำหรับผนังด้านบนของรถยนต์ เส้นใยอะคูสติกเพื่อดูดซับเสียงและสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์ การเข้าซื้อบริษัท Glanzstoff มีความเหมาะสมกับยุทธศาสตร์เพื่อสร้างการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้”
ไอวีแอลเริ่มเข้าสู่ธุรกิจยางในรถยนต์ที่มีการเติบโตสูงจากการเข้าซื้อกิจการบริษัท PHP Fibers ในปี 2557 ต่อมาได้เข้าซื้อกิจการบริษัท Performance Fibers ในปี 2558 ส่งผลให้ไอวีแอลมีการเติบโตขนาดธุรกิจระดับโลก บริษัทฯ มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องและประกาศโครงการการขยายการผลิตในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางในรถยนต์ของบริษัท Performance Fibers ในเมืองไคปิง ประเทศจีนเมื่อเดือนมกราคม ปี 2560 ตามการประมาณการณ์ รายได้รวมของบริษัท PHP Fibers บริษัท Performance Fibers และบริษัท Glanzstoff ในปี 2559 อยู่ที่ 602 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในปี 2559 ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม HVA ทั้งหมดของไอวีแอล มีรายได้จากการขายรวมสูงกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
“เรายังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องตามเส้นทางการเปลี่ยนแปลงเพื่อเสริมสร้างตำแหน่งผู้นำที่แข็งแกร่งและสร้างโอกาสในการเติบโตของกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม ธุรกิจของ Glanzstoff จะช่วยให้เราขยายธุรกิจเข้าสู่เทคโนโลยีเรยอน นอกเหนือจากโพลีเอสเตอร์และไนลอน 6.6 เราจะยังคงมุ่งเน้นการนำเสนอคุณค่าที่ดีที่สุดในแก่ลูกค้า ในขณะเดียวกันขับเคลื่อนนวัตกรรมระดับโลก เพื่อสร้างขีดความสามารถของบริษัทฯ ภายในห่วงโซ่คุณค่าที่เราดำเนินธุรกิจ เรามุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทระดับโลกที่มีการเติบโตสูงและยังคงแสวงหาโอกาสอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้และเพิ่มมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน” นายโลเฮีย กล่าวสรุป
Presentation: คลิกที่นี่