กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 3 กุมภาพันธ์ 2557 – บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล ประกาศซื้อกิจการบริษัท PHP Fiber GmbH (PHP)โดยไอวีแอลเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 80 และบริษัท โตโยโบ ผู้นำของญี่ปุ่นด้านผลิตภัณฑ์สถรรนะสูง (High-function Products) สำหรับยานยนต์และอุตสาหกรรม ถือหุ้นร้อยละ 20

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวย้ำว่า “การเข้าซื้อกิจการ PHP จะเข้ามาช่วยเสริมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ (HVA) ให้กับบริษัทฯ ด้วยผลิตภัณฑ์สถรรนะสูงสำหรับสินค้ายานยนต์และอุตสาหกรรม “เราเชื่อมั่นว่า การผสมผสานระหว่างกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจเส้นใยของอินโดรามา เวนเจอร์สและธุรกิจของ PHPในยุโรป อเมริกาเหนือและเอเชีย จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับโตโยโบ ผู้นำธุรกิจที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นในครั้งนี้”

“ทีมผู้บริหารของ PHP เป็นทีมที่มีประสบการณ์สูง เราตั้งใจที่จะใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ในการพัฒนาธุรกิจเส้นใยทางเทคนิคของเราที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเสริมสร้างแบรนด์ระดับโลก รวมทั้งสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าของเราอีกด้วย” นายโลเฮียกล่าวเสริม “ความร่วมมือของอินโดรามา เวนเจอร์สและ PHP จะช่วยเพิ่มความสามารถด้านเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็วตามการเติบโตของธุรกิจ HVA ผลักดันผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูงสำหรับยานยนต์ เส้นใยสังเคราะห์สำหรับยางรถยนต์และเส้นด้ายอุตสาหกรรม


เกี่ยวกับบริษัท PHPFibers GmbH

PHP เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในยุโรปและผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกด้านเส้นด้ายอุตสาหกรรม Polyamide 66 สำหรับผลิตภัณฑ์ถุงลมนิรภัยในรถยนต์ ยางรถยนต์และ MRG articlesและผู้ผลิตชั้นนำด้านเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์สำหรับอุตสาหกรรม มีฐานการผลิตในยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ในตลาดที่มีการเติบโตสูงและมีอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดเนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีสูง โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก

เกี่ยวกับบริษัท โตโยโบ

บริษัท โตโยโบ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1882 ในฐานะบริษัทสิ่งทอ บริษัทมีการขยายธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีสถรรนะสูงสำหรับฟิล์ม พอลิเมอร์ที่มีสมบัติพิเศษ วัสดุอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life Science)กลุ่มบริษัท โตโยโบ มีธุรกิจและโรงงานทั่วโลก ทั้งในอเมริกา ยุโรป เอเชีย อเมริกาใต้และภูมิภาคอื่นๆ มีพนักงานทั้งสิ้น 10,566 คนและมีรายได้จากการขายรวม 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556