กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563—นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการอนุมัติสินเชื่อสีน้ำเงิน หรือสินเชื่อเพื่อธุรกิจที่สนับสนุนการรักษาสภาพแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเลให้แก่ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกระดับโลกเพื่อทำการรีไซเคิลขวด PET (โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเรต) 50,000 ล้านขวดทั่วโลกต่อปีภายในปี 2568 ซึ่งครอบคลุมทั้ง 4 ประเทศในแถบเอเชียและหนึ่งประเทศในละตินอเมริกา เพื่อนำเอาขยะพลาสติกออกจากหลุมฝังกลบและมหาสมุทร

เงินทุนสนับสนุนแห่งประวัติศาสตร์มูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐที่จัดการโดย IFC ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลกถูกมอบให้กับบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส โกลบอล เซอร์วิสเซส จำกัด (IVGS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มของ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ผู้ผลิตและผู้รีไซเคิลเม็ดพลาสติก PET ชั้นนำระดับโลก เงินทุนดังกล่าวนี้จะช่วยให้ IVL เพิ่มขีดความสามารถในการรีไซเคิลในประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดียและบราซิล ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ต้องต่อสู้กับขยะที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมและประสบกับปัญหาขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง และจะถูกนำไปลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นับเป็นการอนุมัติสินเชื่อสีน้ำเงินครั้งแรกของ IFC ซึ่งมุ่งเน้นการจัดการมลพิษพลาสติกในทะเลโดยเฉพาะ สินเชื่อสีน้ำเงินเป็นนวัตกรรมเครื่องมือทางการเงินซึ่งมีการรับรองและติดตามเงินทุนที่ได้รับโดยเฉพาะสำหรับโครงการที่สนับสนุนเศรษฐกิจสีน้ำเงิน อาทิเช่น การใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาด้านการดำรงชีพและงาน และ ความสมบูรณ์ของนิเวศวิทยาทางทะเล

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อสีน้ำเงินก้อนแรกจาก IFC” คุณยาโชวาดัน โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน อินโดรามา เวนเจอร์สกล่าว “บริษัทของเราหรือ IVL กำลังดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการรีไซเคิล ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการนำเอาขยะออกจากสิ่งแวดล้อมทางทะเล การรีไซเคิลขวด PET ที่เหลือทิ้งหลังการบริโภคให้กลายเป็นขวดใหม่คือการให้มูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ขยะ อันจะเป็นการผลักดันให้เกิดการปรับปรุงในระบบจัดเก็บขยะ ซึ่งหมายถึงปริมาณขยะที่ลดน้อยลงและมหาสมุทรที่สะอาดขึ้น”

อินโดรามา เวนเจอร์สตั้งเป้าหมายที่จะผลิตรีไซเคิล PET (rPET) อย่างน้อย 750,000 เมตริกตันจากทั่วโลกภายในปี 2568 คุณลักษณะเด่นของการลงทุนนี้คือการสร้างมูลค่าจากของเหลือทิ้ง อันได้แก่การแปรรูปขวด PET เหลือทิ้งหลังการบริโภคที่จะต้องถูกนำไปฝังกลบหรือถูกแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าต่ำลง ด้วยการส่งเสริมการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาผลิตเป็นขวดที่มีมูลค่าสูงกว่าซึ่งทำให้เกิดศักยภาพในการสร้างมูลค่าอย่างมีนัยสำคัญ

“เรายินดีที่ได้ร่วมงานกับผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมในการนำเอาขวดพลาสติก PET เหลือทิ้งออกจากแม่น้ำลำคลองและมหาสมุทรโดยการสนับสนุนวิธีแก้ปัญหาที่สามารถนำไปขยายผลและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง” อัลฟอนโซ การ์เซีย โมรา รองประธาน IFC ประจำภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิกกล่าว “สินเชื่อสีน้ำเงินนี้ช่วยเติมเต็มการทำงานอย่างต่อเนื่องของ IFC ในด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับพลาสติกและยกระดับการจัดการขยะในเอเชีย โครงการนี้จะเป็นการสาธิตรูปแบบธุรกิจที่ใช้การรีไซเคิลเป็นมาตรการแทรกแซงเพื่อจัดการมลพิษพลาสติกในขณะที่ให้การสนับสนุนประเด็นเรื่องความยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยรวมไปพร้อมกัน”

นอกจากช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรีไซเคิลของ IVL ใน 5 ประเทศ สินเชื่อดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถลงทุนในกิจกรรมที่เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศอื่น ๆ ได้อีกด้วย โดย IVL จะดำเนินการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่โรงงานในประเทศไทยและอินเดีย และจะขยายไปสู่โรงงานแห่งอื่นในลำดับต่อไป ในขณะเดียวกันบริษัทฯ จะจัดหาพลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้นเพื่อนำไปใช้ในโรงงานผลิตต่อไป ด้วยเงินสนับสนุนจาก IFC IVL กำลังดำเนินการโครงการนำความร้อนเหลือทิ้งกลับมาใช้ใหม่ (Waste Heat Recovery: WHR) ที่โรงงานผลิตเส้นใยและ PET ของบริษัทฯ ในอินโดนีเซียซึ่งคาดว่ามาตรการประหยัดพลังงาน (Energy Efficiency: EE) จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงงานได้มากถึงร้อยละ 25 นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการนวัตกรรม WHR แล้ว IVL จะพัฒนาโครงการ EE ในบราซิลและโรงงานผลิตอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร

แพคเกจเงินสนับสนุนของ IFC ประกอบด้วยเงินกู้ไม่ด้อยสิทธิ (Senior loan) จำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐจาก IFC และเงินกู้แลกเปลี่ยนกับกิจการอื่น (Parallel loan) จำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) และ Deutsche Investitions-und Entwicklungsgesellschaft (DEG) IFC ยังร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารโลกเพื่อประโยชน์ด้านความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชนและจัดทำนโยบายและการลงทุนต่าง ๆ ที่จำเป็นอย่างยิ่งในการจัดการปัญหามลพิษพลาสติกทางทะเลที่มีความซับซ้อน

เกี่ยวกับ IFC

IFC ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลกเป็นสถาบันการพัฒนาระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดที่มุ่งเน้นไปที่ภาคเอกชนในตลาดเกิดใหม่ บริษัทฯ ประกอบธุรกิจในกว่า 100 ประเทศโดยใช้เงินทุน ความเชี่ยวชาญและอิทธิพลของเราเพื่อสร้างตลาดและโอกาสในประเทศกำลังพัฒนา ในปีงบประมาณ 2563 บริษัทฯ ได้ลงทุนกว่า 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในบริษัทเอกชนและสถาบันการเงินหลายแห่งในประเทศกำลังพัฒนา โดยใช้ประโยชน์จากพลังของภาคเอกชนในการยุติความยากจนอย่างรุนแรงและเพิ่มความมั่งคั่งร่วมกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ifc.org.

ติดต่อและติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่


กิจกรรมชดเชยคาร์บอน

เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในคำมั่นสัญญาที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น พิธีลงนามสินเชื่อสีฟ้าของ อินโดรามา เวนเจอร์ส ได้ถูกจัดขึ้นให้เป็นกิจกรรมชดเชยคาร์บอน โดยงานนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของข้อตกลงที่ได้เกิดขึ้นในวันนี้ และสื่อถึงบทบาทของไอวีแอลในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบ การจัดงานในทุกๆระดับล้วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก การชดเชยคาร์บอนหมายความว่าปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถูกทำให้ลดลงและมีการซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชยในส่วนที่เกิดขึ้น

การลดและชดเชยคาร์บอนเครดิต

จากผู้ร่วมงานหลัก 30 ท่าน จำนวน 20 ท่านได้เดินทางมาร่วมงานด้วยตัวเอง และอีก 10 ท่านจะร่วมงานผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมกับผู้ร่วมงานออนไลน์อีกจำนวนมากที่จะเข้าร่วมจากทั่วโลก อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มได้ถูกจัดหาจากแหล่งใกล้สถานที่จัดงาน เพื่อลดการขนส่งของทั้งคนและสิ่งของ ในวันงานองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) จะตรวจสอบและยืนยันปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากงานนี้ และอินโดรามา เวนเจอร์สจะซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยปริมาณที่สร้างขึ้น ทำให้งานนี้กลายเป็นกิจกรรมชดเชยคาร์บอนอย่างแท้จริง

ความยั่งยืนของไอวีแอล

ในปัจจุบัน อินโดรามา ด้วยการวางแผนในระยะยาวที่สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจของเรา โดยได้รับการยอมรับมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง อินโดรามา เวนเจอร์สกำลังเพิ่มการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และแหล่งพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ที่โรงงาน 121 แห่งทั่วโลก รวมเป็น 30% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในปี 2030 แผนการลงทุน 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนาธุรกิจรีไซเคิล จะทำให้ไอวีแอลสามารถเพิ่มปริมาณการรีไซเคิลเป็น 750,000 ตันต่อปีภายใน 2025